ความเห็นของผู้บริโภคยุโรปต่อนโยบายเกษตรอินทรีย์

สหกรณ์ยูโร (Euro Coop) เป็นหน่วยงานกลางของสหกรณ์ผู้บริโภคในยุโรป จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 ซึ่งมีสมาชิกที่เป็นสหกรณ์ผู้บริโภค 4,500 สหกรณ์ใน 18 ประเทศของสหภาพยุโรป และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม  สหกรณ์ยูโรได้จัดทำข้อเสนอต่อคณะกรรมาธิการเกษตรของยุโรปเกี่ยวกับนโยบายเกษตรอินทรีย์ ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

  • ภาครัฐต้องส่งเสริมการบริโภคอาหารออร์แกนิค โดยการกำหนดนโยบายการจัดซื้อของหน่วยงานราชการ ที่ให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์เป็นหลัก
  • ราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การบริโภคเกษตรอินทรีย์ไม่ขยายตัว  ดังนั้น สหภาพยุโรปควรผลักดันให้สินค้าที่ผลิตแบบไม่ยั่งยืน (มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ) ต้องนำต้นทุนผลกระทบของการผลิตของตนมาคำนวณเป็นต้นทุนสินค้าด้วย
  • ข้อมูลและการให้การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ สหภาพยุโรปจะต้องผลักดันให้ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงวิถีการบริโภคให้มีความยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการเลือกซื้ออาหารออร์แกนิค
  • สหกรณ์ยูโรเห็นด้วยและสนับสนุนการบังคับใช้ตรากลางเกษตรอินทรีย์ของสหภาพยุโรป
  • การยอมรับความเท่าเทียม (equivalence) ของระบบมาตรฐานและการตรวจสอบรับรองเป็นแนวทางที่ถูกต้องในการกระตุ้นการนำเข้าสินค้าเกษตรอินทรีย์  การยอมรับความเท่าเทียมเป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่าการทำให้เป็นไปตามเกณฑ์ (compliance) เพราะช่วยลดภาระการตรวจรับรองให้กับเกษตรกรรายย่อยในประเทศนอกสหภาพยุโรป
  • ความโปร่งใสและการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (harmonisation) ของข้อกำหนดสำหรับหน่วยตรวจรับรองเกษตรอินทรีย์เป็นสิ่งจำเป็นมาก
  • ควรจะให้บริการตรวจรับรองเกษตรอินทรีย์ฟรีกับเกษตรกรรายย่อย โดยใช้งบประมาณจาก Common Agriculture Policy
  • ควรกระตุ้นและสนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์
  • ควรปกป้องเกษตรกรรายย่อยเพื่อผู้บริโภคจะได้มีอาหารเกษตรอินทรีย์ที่หลากหลาย  เกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ควรพยายามใช้เมล็ดพันธุ์เกษตรอินทรีย์และพันธุ์พื้นบ้าน ที่ได้พัฒนาให้มีความจำเพาะสำหรับแต่ละท้องถิ่น
  • แม้ว่าควรยึดหลักว่า อาหารสำหรับเลี้ยงปศุสัตว์เกษตรอินทรีย์จะต้องได้จากระบบเกษตรอินทรีย์ 100% แต่ก็มีข้อยืดหยุ่นสำหรับบางพื้นที่ เพื่อที่จะไม่ต้องบังคับให้เกษตรกรต้องนำเข้าอาหารเลี้ยงสัตว์เกษตรอินทรีย์จากต่างประเทศ  รวมทั้งการสนับสนุนงานวิจัยเกี่ยวกับทางเลือกของแหล่งอาหารโปรตีนสำหรับอาหารสัตว์ด้วย
  • การดำรงอยู่ร่วมกัน (co­-existence) ของการทำเกษตรแบบทั่วไป เกษตรอินทรีย์ และการผลิตโดยใช้จีเอ็มโอ ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ

 

ข้อมูลจากบทความ “Consumers’ feedback” โดย Nuria Alonso ในจดหมายข่าว The Organic Standatrds, Issue 147, July 2013