สืบเนื่องจากการที่ Fair Trade USA (FTUSA) ได้ประกาศลาออกจากองค์กรแฟร์เทรดสากล (Fairtrade International – FLO) เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา (ไปดูข่าวเก่า) ทางองค์การค้าแฟร์เทรดสากล (World Fair Trade Organization – WFTO) ได้ออกแถลงการณ์เมืิ่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ทาง WFTO ไม่เห็นด้วยการแนวนโยบายของ FTUSA เพราะเป็นห่วงว่า การตัดสินใจของ FTUSA อาจมีผลกระทบต่อผู้ผลิตรายย่อย ทั้งนี้ ทาง WFTO เห็นว่า การดำเนินงานของ FLO ที่ผ่านมาได้ทำให้เกิดการเบี่ยงเบนแนวทางการทำงานด้านแฟร์เทรดไปจากเดิม ซึ่งการตรวจสอบรับรองมาตรฐานในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผู้ผลิตและเกษตรกร แทนที่จะเป็นหน่วยงานที่ซื้อผลผลิตจากผู้ผลิตและเกษตรกรไปจำหน่าย และการให้ความสำคัญกับเป้าหมายในเรื่องการขยายตัวของปริมาณการขายสินค้าแฟร์เทรด มากกว่าสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ผลิตและเกษตรกร
ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของ FTUSA ดูเหมือนจะยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงการเบี่ยงเบนของแนวคิดเกี่ยวกับการค้าที่เป็นธรรม โดยทาง FTUSA ได้ตัดสินใจลาออกจาก FLO เป็นการตัดสินใจโดยไม่ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขาดความโปร่งใส และอาจสร้างผลกระทบให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการในขบวนการแฟร์เทรดทั่วโลก แม้ว่า FTUSA อาจจะอ้างเหตุผลว่า ต้องการเปิดกว้างระบบแฟร์เทรดสำหรับคนงานที่ทำงานในสวนเกษตรขนาดใหญ่ที่เป็นของบริษัทธุรกิจการเกษตร (หลายแห่งเป็นบรรษัทข้ามชาติด้วย) แต่ที่จริงแล้ว คนงานเหล่านี้ควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานของประเทศนั้นๆ อยู่แล้ว การขยายขอบเขตการทำงานกับสวนเกษตรขนาดใหญ่ไม่ได้ช่วยทำให้คนงานเหล่านี้มีสภาพการจ้างงาน/ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะตามข้อกำหนดของแฟร์เทรดในปัจจุบันก็คือ การตรวจสอบให้บริษัทธุรกิจการเกษตรเหล่านี้ดำเนินการตามกฎหมายแรงงานในประเทศของตัวเอง ซึ่งถ้า FTUSA ต้องการที่จะช่วยคนงานในสวนเกษตรนี้จริง ก็จะต้องไปผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายแรงงานในประเทศต่างๆ รวมทั้งการผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้น่าจะเหมาะสมกว่า การให้การรับรองบริษัทธุรกิจการเกษตรที่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานว่าเป็น “การค้าที่เป็นธรรม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาง WFTO คิดว่า เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะรับรองบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่เป็นเจ้าของห่วงโซ่ซัพพลาย ผูกขาดธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพราะบรรษัทเหล่านี้เป็นต้นตอสาเหตุของปัญหาความไม่เป็นธรรมทางการค้า ที่ทำให้เกิดการรวมตัวกันเป็นขบวนการแฟร์เทรดในปัจจุบัน