แฟร์เทรด หรือ การค้าเป็นธรรม เป็นระบบการผลิตและการค้าที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว จากการประมาณการขององค์กรแฟร์เทรดสากล (Fairtrade International) ในปี 2552 ทั่วโลกมีการขายสินค้าแฟร์เทรดรวมกันประมาณ 3,400 ล้านยูโร (ประมาณ 13,6000 ล้านบาท) ซึ่งในประเทศไทย มีผู้ประกอบการสำคัญๆ ที่ขับเคลื่อนงานแฟร์เทรด เช่น บริษัทไทยคราฟท์แฟร์เทรด และสหกรณ์กรีนเนท
การขยายตัวของตลาดแฟร์เทรดนี้ ทำให้หน่วยงานระหว่างประเทศหลายแห่งหันมาให้ความสนใจในตลาดนี้ และพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดในกลุ่มนี้ได้ องค์กร Asian Productivity Organization (APO) จึงได้ริเริ่มจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้กับประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชีย ในหัวข้อ Fair Trade for Enhancing Market Access of Agricultural Products from Developing Countries in Asia ในช่วงระหว่างวันที่ 5-9 กันยายน 2554 ที่เมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม 23 คนจาก 12 ประเทศ
ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ทาง APO ได้เชิญวิทยากรหลักจาก 2 หน่วยงาน คือ PREDA Fair Trade จากฟิลิปปินส์ และสหกรณ์กรีนเนท ประเทศไทย เพราะทั้ง 2 หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่ทำงานด้านแฟร์เทรดจนประสบความสำเร็จในประเทศตัวเอง เนื้อหาในการประชุมเชิงปฏฺบัติการนี้ครอบคลุมเกี่ยวกับแนวคิดและพัฒนาการของระบบการค้าแฟร์เทรด โอกาสทางการตลาดของแฟร์เทรด มาตรฐานและการตรวจสอบรับรอง รวมไปถึงแนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต ในส่วนของวิทยากรจากกรีนเนท ได้บรรยายให้ผู้เข้าร่วมเกี่ยวกุญแจความสำเร็จของการทำการค้าแบบแฟร์เทรด คือ การวางแผนและการบริหารจัดการห่วงโซ่ซัพพลาย์ในระบบแฟร์เทรด การจัดทำระบบประกันคุณภาพ และการสื่อสารกับผู้บริโภค
APO เป็นองค์กรระหว่างประเทศภาครัฐในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยมีเป้าหมายในการยกระดับผลิตภาพในด้านต่างๆ ของผู้ประกอบการภาคเอกชน โดยในประเทศไทย หน่วยงานที่เป็นสมาชิกของ APO ก็คือ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ