ในการประชุมใหญ่สามัญของสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (International Federations of Organic Agriculture Movements – IFOAM) ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุก 3 ปี โดยการประชุมใหญ่สามัญในปีนี้จัดที่เมืองนำยังจู (Namyangju) ประเทศเกาหลี ในระหว่างวันที่ 3 – 5 ตุลาคม 2554 หลังจากการประชุมวิชาการ Organic World Congress
ในการประชุมใหญ่นี้ กรรมการ IFOAM ได้นำเสนอรายงานผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย
(1) การทบทวนระบบรับรองเกษตรอินทรีย์ (Organic Guarantee System) ซึ่งแต่เดิม IFOAM มีการจัดทำเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ (IFOAM Basic Standards) ที่เป็นเกณฑ์ข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และการรับรองระบบงานเกษตรอินทรีย์ (IFOAM Accreditation Programme) สำหรับหน่วยตรวจรับรองเกษตรอินทรีย์ โดยทาง IFOAM ได้ปรับระบบใหม่ โดยจัดทำเป็น
- หลักเกณฑ์และข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Common Objectives and Requirements of Organic Standards – COROS) สำหรับเป็นกรอบในการกำหนดมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และการประเมินมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ต่างๆ ซึ่งมาตรฐานที่ผ่านการประเมินจะได้รับการจัดเข้าเป็นกลุ่มมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ IFOAM (IFOAM Family of Standards)
- มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ IFOAM สำหรับหน่วยตรวจสอบรับรองเกษตรอินทรีย์ที่จะนำไปใช้ในการตรวจรับรองมาตรฐานผู้ผลิต
- ตราเกษตรอินทรีย์สากล IFOAM (Global Organic Mark) สำหรับใช้กับผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามกลุ่มมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ IFOAM
(2) การปรับปรุงระบบบริหารจัดการ ธรรมาภิบาล และยุทธศาสตร์ของ IFOAM ใหม่ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการปรับยุทธศาสตร์ขององค์กรโดยรวม ที่ให้ความสำคัญของกับเครือข่ายในระดับภูมิภาคมากขึ้น
(3) การสนับสนุนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์และบุคลลากรด้านเกษตรอินทรีย์ในด้านต่างๆ เช่น การจัดทำหลักสูตรและการฝึกอบรม IFOAM Academy for Organic Excellence
นอกจากนี้ ที่ประชุมใหญ่ยังได้เลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ ซึ่งประกอบด้วย Andre Leu (ออสเตรเลีย) Roberto Ugás (เปรู) Mathew John (อินเดีย) Matthew Holmes (แคนาดา) James Benjamin Cole (กานา) Gabriela Soto (คอสตาริกา) Manjo Smith (นามิเบีย) Eva Torremocha (สเปน) Frank Eyhorn (สวิสเซอร์แลนด์) และ Volkert Engelsman (เนเธอร์แลนด์) และกรรมการชุดใหม่ที่เริ่มประชุมเพื่อเลือกตั้งประธานและกรรมการบริหารกันเอง โดยนาย Andre Leu (ออสเตรเลีย) ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธาน IFOAM นาย Roberto Ugás (เปรู) และนาง Gabriela Soto (คอสตาริกา) เป็นรองประธาน
