ลักษณะเด่นของสายพันธุ์
เป็นแตงพันธุ์พื้นบ้านผลใหญ่ลูกยาวเป็นคืบ ผลสีเขียวมีกลิ่นหอม กรอบ รสชาติดี เนื้อหนา ให้ผลผลิตมาก น้ำหนักดี
ดิน/สภาพอากาศ
เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี ชอบแดด ปลูกได้ดีในหน้าฝน
คำแนะนำในการปลูก
เตรียมหลุมปลูก โดยผสมปุ๋ยคอกขี้วัวหรือปุ๋ยหมักผสมในหลุมอัตราส่วน 1 ช้อนปลูก แล้วคนผสมให้เข้ากัน
เตรียมหลุมปลูกแล้วหยอดเมล็ดหลุมละ 3-4 เมล็ดต่อหลุมหลังใบจริงออก 2 ใบ ให้ถอนแยกให้เหลือหลุมละ 2 ต้น หากปลูกเป็นแปลงให้เว้นระยะห่างระหว่างต้น x หลุม (60x80cm.)
หลังจากพืชอายุ 20-25 วันก็ทำค้างเพื่อเตรียมให้เถาเลื้อยขึ้น
การดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย ครั้งที่ 1, 2 เมื่อต้นพืชอายุได้ 15-20 วัน, 35-40 วันก่อนออกดอกควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว (ให้สังเกตพืชด้วยว่าปุ๋ยหมักเพียงพอกับความต้องการหรือไม่อาจจะให้เพิ่มอีกได้)
การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค – แมลง
กรณีโรคในแตงซั่งเขียวยังไม่พบ แต่จะมีแมลงมารบกวนเจาะผลบ้าง ถ้ามีก็ให้ใช้วิธีการกำจัดด้วยมือหรือถ้าระบาดมากให้ใช้น้ำส้มควันไม้ในการขับไล่แมลง
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว
เก็บเกี่ยวผลสดเมื่อแตงอายุ 60-65 วัน
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป
เมื่อแตงอายุประมาณ 90 – 95 วัน ผลแตงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสุก ให้เก็บเกี่ยวมาเก็บไว้สัก 1 อาทิตย์เพื่อรอให้เมล็ดแตงดูดกินอาหารจากเปลือกให้มากที่สุด ซึ่งเราจะได้เมล็ดแตงที่เต่งและสมบูรณ์ จากนั้นเมื่อครบ 1อาทิตย์ให้ผ่าแตงตามยาวเพื่อเอาเมล็ดออกมาแล้วให้บ่มไว้ประมาณ 1-2 คืน เพื่อให้เมือกที่เคลือบเมล็ดหลุดออกแล้วค่อยล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า สังเกตดูว่าเมล็ดที่ดีจะจมและเมล็ดที่ไม่ดีจะลอยขึ้นมา ให้เทเมล็ดที่ลอยออกให้หมด จากนั้นให้ล้างด้วยน้ำยาล้างจานอีก 1 รอบ (ใส่น้ำยาล้างจานเล็กน้อยพอเกิดฟอง น้ำยาล้างจานจะช่วยกำจัดแบคทีเรีย) ล้างเมล็ดด้วยน้ำสะอาดให้หมดฟอง แล้วก็นำไปพึ่งลมในร่มให้หมาด แล้วค่อยนำออกไปตากแดดประมาณ 2-3 แดด จากนั้นเก็บมาพึ่งในร่มให้เมล็ดเย็น แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษและเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป