ลักษณะเด่นประจำพันธุ์
มีคุณค่าทางอาหารสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ใบและลำต้นขนาดใหญ่สีแดงสะดุดตา รสชาตดี สามารถปลูกไว้เพื่อประกอบอาหารและปลูกไว้เพื่อประดับสวนได้
ดิน/สภาพอากาศที่เหมาะสม
เป็นพืชที่ปลูกและดูแลรักษาง่าย ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบแดด ปลูกได้ตลอดปี ถ้าเก็บเมล็ดพันธุ์ปลูกช่วงเดือน พย.
คำแนะนำในการปลูก
เหมาะสำหรับปลูกในแปลงกลางแจ้ง ใช้เมล็ดหว่านห่างๆ ในแปลงที่เตรียมไว้แล้วแล้วคลุมด้วยฟางข้าวเพื่อรักษาความชื้น และรดน้ำให้ชุ่ม ทุกวัน
ระยะห่างระหว่างต้น x แถว ถ้าปลูกไว้กินให้ใช้วิธีการหว่านห่างๆ บนแปลง / ถ้าปลูกเพื่อ เก็บเมล็ดพันธุ์ ให้ปลูกระยะห่าง 40 ซม.x50 ซม.
การดูแลและบำรุงรักษา
การให้ปุ๋ย ครั้งที่ 1, 2 เมื่อต้นพืชอายุได้ 30 วัน, 55-60 วันก่อนออกดอกควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว (ให้สังเกตพืชด้วยว่าปุ๋ยหมักเพียงพอกับความต้องการหรือไม่อาจจะให้เพิ่มอีกได้)
การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค – แมลง กรณีโรคในผักโขมจีนแดงยังไม่พบ แต่จะมีแมลงมารบกวนกัดกินใบ ถ้ามีก็ให้ใช้วิธีการกำจัดด้วยมือก็เพียงพอแล้ว
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว
เมื่อผักโขมอายุ ได้ 20-25 วัน ก็ทยอยเก็บเกี่ยวได้เรื่อยๆ ถ้าลำต้นแก่แล้วยังสามารถกินส่วนที่เป็นใบได้เรื่อยๆ
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป
เมื่อผักโขมจีนอายุประมาณ 55-60 วัน จะเริ่มออกดอก หลังจากนั้นอีกประมาณ 70 วัน ให้สังเกตเมล็ดพันธุ์ว่าช่อดอก แห้งหรือไม่ ถ้าสีของดอกและใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแก่ผสมสีน้ำตาลก็สามารถตัดต้นเพื่อนำไปตากได้ หลังจากนั้นให้นำไปตากแดด 3-4 แดดเพื่อให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วให้นำต้นที่ตากมาฟาดและขยี้ในกระสอบเพื่อเอาเมล็ดออกจากลำต้น จากนั้นนำเมล็ดที่ได้มาขยี้ เอาเปลือกหุ้มเมล็ดออกและใช้กระด้งผัดเอาเศษฝุ่นเศษเปลือกหุ้มเมล็ดออกให้หมดแล้วใช้ตะแกรงรูขนาดเล็กช่วยร่อนทำความอีกรอบ แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษและเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป