ลักษณะเด่นประจำพันธุ์
ติดผลดก มีผลขนาดเล็ก สีเขียวอ่อน ผลอ่อนรสชาตดีหวาน (หลังจากสุกแล้ว) สามารถกินยอดได้ ส่วนผลแก่สามารถทำเมล็ดพันธุ์และใช้ห้อยประดับตกแต่งบ้านได้
ดิน/สภาพอากาศที่เหมาะสม
เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบแดด ง่ายต่อการดูแลรักษา ปลูกได้ดีในหน้าฝน ช่วงเดือน พค.-มิย.
คำแนะนำในการปลูก
เตรียมหลุมโดยคลุกปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกหลุมละ 1 ช้อนปลูก แล้วหยอดเมล็ดลงหลุมละ 3-4 เมล็ด แล้วรดน้ำให้ชุ่ม เมื่อมีใบจริง 2 ใบค่อยถอนแยกต้นที่ไม่สมบูรณ์ออกให้เหลือหลุมละ 2 ต้น หลังจากต้นพืชอายุ 20-25 วัน ให้เริ่มทำค้างเพื่อให้เถาเลื้อยขึ้น
ระยะห่างระหว่างต้น x แถว 200 ซม. X 200 ซม. เหมาะสำหรับปลูกในแปลงกลางแจ้ง
การดูแลและบำรุงรักษา
การให้ปุ๋ย ครั้งที่ 1, 2 เมื่อต้นพืชอายุได้ 15-20 วัน, 40-45 วัน, ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว (ให้สังเกตพืชด้วยว่าปุ๋ยหมักเพียงพอกับความต้องการหรือไม่อาจจะให้เพิ่มอีกได้)
การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค – แมลง
ไม่มีปัญหาเรื่องโรคแต่มีแมลงหิ่งห้อยมารบกวนกัดกินใบเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่มีผลกระทบกับพืชแต่ถ้ามีมากเกินไปก็สามารถใช้น้ำส้มควันไม้ในการฉีดพ่นไล่ได้
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว
ดอกเริ่มบานอายุ 55-60 วัน และสามารถเก็บเกี่ยวผลอ่อนกินได้อายุ 75-80 วัน หลังปลูก
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป
เมื่อน้ำเต้าจิ๋วอายุ 200 วัน ช่วงนี้ทุกผลจะสุกสีเป็นสีน้ำตาลก็เก็บทั้งหมดไปตากแดด ให้แห้งมากที่สุดอาจจะใช้เวลานานมากกว่า 10 วัน จากนั้นเก็บใส่กระสอบไว้โดยไม่ต้องมัดปากกระสอบหรือผูกแขวนไว้ในที่ร่ม ซึ่งจะสามารถเก็บเมล็ดไว้นาน 1 ปี แต่ถ้าเก็บไว้นานต้องกะเทาะเมล็ดออกจากผลหลังตากแล้วทำความสะอาดแล้วตากอีกรอบ 2-3 วัน แล้วนำมาผึงลมให้เย็น แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษและเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป