ลักษณะเด่นของสายพันธุ์
ผลใหญ่สีแดง ผลดก น้ำหนักและรสชาติดี เนื้อหนา กินสด และใช้ประกอบอาหารได้
ดิน/สภาพอากาศ
ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี ชอบแดด เจริญเติบโตได้ดีในหน้าหนาว
เหมาะสมในการปลูกแปลงกลางแจ้ง กรณีบางบ้านมีเนื้อที่จำกัดอาจจะปลูกในกระถางได้โดยปลูกแค่ 1 ต้นพอแต่ต้นพืชต้องได้รับแสงแดดเพียงพอ
คำแนะนำในการปลูก
เพาะกล้าในกระบะ หลังต้นกล้าอายุ 1 เดือน ย้ายลงปลูกตามแปลงปลูกโดยปลูกเป็นหลุม หลุมละ 1 ต้น หลังอายุ 20-25 วันให้ทำค้างเพื่อให้ผลลอยอยู่บนผิวดิน ระยะห่างระหว่างต้นxแถว (50×50 cm.)
การดูแลรักษา
การให้ปุ๋ย ครั้งที่ 1, 2 เมื่อต้นพืชอายุได้ 40 วัน, 60 วัน ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว (ให้สังเกตพืชด้วยว่าปุ๋ยหมักเพียงพอกับความต้องการหรือไม่อาจจะให้เพิ่มอีกได้)
การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค – แมลง
กรณีโรคยังไม่พบ แต่จะมีแมลงมารบกวนเจาะผลถ้าผลวางอยู่บนผิวดินจะมีเสี้ยนดินมากัดกิน ควรหาทางป้องกันโดยการอย่าให้ผลวางบนดินควรทำค้างเพื่อให้ผลลอยอยู่บนผิวดิน
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว
115-120 วัน
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป
เมื่อมะเขือเทศอายุ 115-120 วัน ผลจะเริ่มทยอยสุกเรื่อยๆ ให้ทยอยเก็บผลสีแดงแล้วบ่มไว้ในร่ม 3-5 วันก่อน แล้วนำมาผ่าเอาเมล็ดออกแล้วบ่มไว้ประมาณ 1-2 คืนแล้วค่อยล้างเมือกออกให้หมด (ถ้าล้างเมือกออกไม่หมดจะทำให้เมล็ดเป็นเชื้อราได้) เมล็ดที่จมเป็นเมล็ดที่ดี หลังจากล้างแล้วให้เทใส่ตะแกรงแล้วล้างอีกรอบ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ในร่มให้หมาดแล้วค่อยนำไปตากแดด 2-3 แดด จากนั้นเก็บมาพึ่งในร่มให้เมล็ดเย็น แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษและเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป