ลักษณะเด่นประจำพันธุ์: ดอกเป็นสีขาว หัวเป็นสีขาว ใบสีเขียวใบเป็นแฉกมีขนอ่อนสีขาวทั่วใบ
ดิน/สภาพอากาศที่เหมาะสม: ชอบดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย
คำแนะนำในการปลูก: เตรียมแปลงปลูก (แปลงที่เตรียมไว้ควรจะคลุกปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักที่ผ่านการหมักแล้วใส่คลุกเคล้าในแปลงให้ทั่ว) ขีดแปลงตามแนวยาวของแปลงทำเป็น 2 แถวยาว ให้ห่างจากขอบแปลงประมาณ 15-20 ซม. จากนั้นหยอดเมล็ดลึกประมาณ 2 ซม.วางเมล็ดให้ห่างประมาณ 5-7 ซม.แล้วกลบด้วยดิน,ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
เมื่อเมล็ดโดนความชื้น 3 วันก็จะงอก และเมื่อต้นกล้าอายุ 5-7 วัน ให้ทำการถอนแยกให้ต้นมีความห่างสม่ำเสมอกัน
เมื่อต้นกล้าอายุ 20-25 วัน,ให้ใส่ปุ๋ยหมัก(ต้องหมั่นสังเกตต้นพืชว่าควรจะให้ปุ๋ยเพิ่มอีกไหมจนเริ่มออกหัว) เมื่อใส่ปุ๋ยแล้วให้พรวนดินแล้วกลบโคนต้น
ระยะห่างระหว่างต้น x แถว: 5-7 ซม. X 30-40 ซม. เหมาะสำหรับปลูกแปลงกลางแจ้ง
การให้ปุ๋ย: ครั้งที่ 1 ใส่ผสมลงไปในแปลงปลูกผสมกับดินให้เข้ากันใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2,3 เมื่อต้นพืชอายุได้ 7-14 วัน,และ30-35 วัน ควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้ว(ให้สังเกตพืชว่าปุ๋ยหมักเพียงพอกับความต้องการหรือไม่อาจจะให้เพิ่มอีกได้)
การกำจัดวัชพืชและพรวนดิน: เมื่อมีการถอนหญ้าให้พรวนดิน โดยให้สังเกตภายในแปลงตามความเหมาะสม
การให้น้ำ: ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืชไม่ควรให้แห้งหรือแฉะมากเกินไป (ให้คอยสังเกตที่ดินปลูก)
โรค – แมลง: ปัญหาเรื่องโรคเช่นลำต้นเน่า ให้ทำการถอนทิ้ง และมักมีหนอนกินใบช่วงใบอ่อน ควรใช้วิธีกำจัดโดยใช้มือ หรือสมุนไพรนำมาหมักแล้วฉีดพ่นทุก 5-7 วัน
ระยะเวลาในการเก็บเกี่ยว: หัวไชเท้าจะสามารถเก็บเกี่ยวกินหรือขายได้เมื่ออายุ 90 วัน
การเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อทำพันธุ์ต่อไป: เมื่ออายุ 90 วัน หัวก็จะเริ่มแก่ ดูแลรักษาไปเรื่อยๆ จนอายุได้ประมาณ 180 วันก็จะเริ่มแทงช่อดอกติดเมล็ด หลังจากนั้นประมาณ 200-220 วัน เมล็ดก็แก่ฝักเริ่มแห้ง ก็สามารถทยอยตัดได้ โดยตัดแล้วกำเป็นกำๆ โดยใช้ตอกมัด เก็บเกี่ยวเหมือนผักกาด แล้วใช้กระสอบรองตากเพื่อป้องกันเมล็ดร่วง ใช้เวลาตาก 2-3 แดด เมื่อแห้งแล้วให้เอาแต่ละกำมาฟาดและใช้มือขยี้ช่วยในกระสอบเมล็ดก็จะหลุดออกจากกระฝัก จากนั้นก็นำมาผัดกับกระด้งทำความสะอาดผัดเอาฝุ่นละอองเศษกากต่างๆ ออกให้หมดแล้วใช้ตะแกรงร่อนทำความสะอาดอีกรอบ แล้วค่อยเก็บใส่ถุงกระดาษและเขียนชื่อและวันเดือนปีที่เก็บแล้วพับใส่ในถุงพลาสติกเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาอัตราการงอกและลดการหายใจของเมล็ดพันธุ์ให้น้อยที่สุด จะสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้ได้นานเกิน 2 ปีขึ้นไป